แม้ว่าปัญหาเรื่องของธนาคาร Credit Suisse จะจบลงด้วยการถูก UBS มาซื้อกิจการไปแล้ว แต่ความกังวลในเรื่องความไม่มั่นคงของสถาบันการเงินนั้นยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดทางธนาคารสหรัฐหรือ FED ก็ยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ออีก 0.25% ทำให้ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 5.00% เรียกว่านับจากที่เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อ 1 ปี ก็มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นถึง 4.75% เลยทีเดียว
ซึ่งในภาวะที่ธนาคารกลางสหรัฐยังไม่หยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัญหาที่เกิดขึ้นในกรณีของ Silicon Valley Bank (SVB) (คือ ดอกเบี้ยขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ตราสารหนี้ระยะยาวที่ธนาคารถือไว้มีมูลค่าลดลงอย่างมากจนธนาคารขาดทุนอย่างหนัก) ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับธนาคารอื่นๆ ต่อเนื่องเพิ่มขึ้น คือ มีการวิจัยว่าอาจจะมีสถาบันการเงินถึง 190 แห่ง!!! ที่มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดปัญหานี้ตามมาอีกได้
นอกจากนี้ปัญหาเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้ส่งผลต่อเพียงแค่สถาบันการเงินในสหรัฐอย่างเดียวเท่านั้น เพราะในช่วงที่ผ่านมาธนาคารกลางขนาดใหญ่ของโลก (ยกเว้นญี่ปุ่นและจีน) ก็ล้วนแต่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอย่างต่อเนื่องเพื่อต้องการสกัดเงินเฟ้อ ทำให้ธนาคารในฝั่งยุโรปเองก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเหมือนกับกรณี SVB ได้เหมือนกัน โดยข้อมูลการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางที่สำคัญของโลกเป็นดังนี้
– Federal Reserve (FED – สหรัฐ) ขึ้นดอกเบี้ยจาก 0.25% เป็น 0.50% นับจาก 16 มี.ค. 2565 ถึง 22 มี.ค. 2566
– European Central Bank (ECB – ยุโรป) ขึ้นดอกเบี้ยจาก 0% เป็น 3.50% นับจาก 21 ก.ค. 2565 ถึง 16 มี.ค. 2566
– Bank of England (BOE – อังกฤษ) ขึ้นดอกเบี้ยจาก 0.10% เป็น 4.25% นับจาก 16 ธ.ค. 2564 ถึง 23 มี.ค. 2566
– Swiss National Bank (SNB – สวิสเซอร์แลนด์) ขึ้นดอกเบี้ยจาก -0.75% เป็น 1.50% นับจาก 24 มี.ค. 2565 ถึง 23 มี.ค. 2566
จะเห็นได้ว่า… ธนาคารกลางขนาดใหญ่ของโลกนั้นกังวลกับปัญหาเงินเฟ้ออย่างมากจนนำมาสู่การขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วชนิดที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในประเทศที่พัฒนาแล้ว และในที่สุดก็นำมาสู่ผลกระทบต่อเสถียรภาพของสถาบันการเงินอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
โดยล่าสุดนักวิเคราะห์จาก Well Fargo ก็ได้ให้ความเห็นว่า… FED อาจจะประเมินผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยที่มีต่อเสถียรภาพของสถาบันการเงินต่ำเกินไป มีโอกาสไม่น้อยที่ปัญหานี้จะลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็วหากไม่มีการจัดการที่ดี… ซึ่งถ้าเราเป็น FED ก็คงปวดหัวไม่น้อยครับเพราะ เงินเฟ้อก็ยังเอาไม่อยู่ แต่ถ้าขึ้นดอกเบี้ยมากกว่านี้สถาบันการเงินก็อาจจะรับกันไม่ไหว… ยังไงหนังชีวิตเรื่องนี้ก็คงต้องติดตามต่อไปกันอีกนานทีเดียว…
Facebook : Three Six O Academy ทรี ซิกส์ โอ อะคาเดมี
Youtube : ThreeSixO Academy # Browse your Opportunities
Line OA : @ThreeSixOAcademy
Twitter : 360AcademyTH
Tel : 063-9876593